แน่ใจได้อย่างไรว่าครีมที่ใช้ปลอดสารอันตราย

ผิวกระจ่างใส ลดสิวได้ไว แน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีสารอันตราย ⁉️ 

ช่วงนี้มีข่าว ครีมปลอม ครีมผสมอันตราย ระบาดหนัก…

วันนี้ MD REVIVE มาทดสอบ 4 สารอันตรายที่พบบ่อยในครีม เพื่อความมั่นใจ

พร้อมให้ความรู้ มีอะไรบ้าง ทดสอบได้ผลอย่างไร ???

ในแต่ละวันหมอเจอเคสผิวติดสารจากครีมในเน็ตเยอะมากๆเลยค่ะ
แถมตอนนี้มีคดีครีมปลอม แอบผสมสารอันตรายกันอีก

สารอันตรายในครีมที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง
เมื่อใช้แล้วจะเกิดผลอะไรต่อผิว และมีวิธีตรวจสอบด้วยตนเองได้อย่างไร

พร้อมผลทดสอบกับเซรั่ม MD REVIVE : MORE THAN WHITE SERUM 

 

1️⃣ สเตียรอยด์ 
– สเตียรอยด์เป็นสารอันตรายที่พบบ่อยที่สุด
เพราะมีฤทธิ์ลดการแพ้ ลดการอักเสบ ลดการสร้างเม็ดสี
มีทั้งในรูปแบบ ทา และ ฉีด ซึ่งก็คือยาฉีดสิว ที่ทำให้สิวยุบนั่นเองค่ะ

การทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
ช่วงแรก สิวยุบ ผิวจะขาว พร้อมหดหลอดเลือดทำให้ผิวดูใส ได้อย่างไว !!

แต่เมื่อใช้ไปเกิน 2 สัปดาห์….จะเริ่มมีผดผื่น
#สิวเห่อ ขึ้นทั้งได้สิวอักเสบ และสิวอุดตัน
#ผิวบางแดง #แพ้ง่าย #ไวต่อแดด
เมื่อใช้ไปนานๆจะเห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆใต้ผิว
แถมพอหยุดใช้ สิวจะยิ่งเห่อ ฝ้าจะยิ่งเข้มต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์

ความแรงของตัวยามีหลายระดับ
ผลลัพท์ก็ขึ้นกับความเข้มข้น
หลายๆคนจึงอยู่ในวังวนของ ผิวติดสเตียรอยด์
เมื่อสเตียรอยด์อ่อนๆเอาไม่อยู่ อยากเห็นผลไว จึงไปหาครีมที่แรงขึ้นมาทา หน้าใส สลับพังเป็นพักๆ

ตัวอย่างครีมที่มีสเตียรอยด์ผสม
#ครีมพม่าหน้าขาว ที่ขายตามตลาดนัด หลอดละ 20-100 บาท

ชื่อสามัญ คือ Clobetasol หรือสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์แรงนั่นเองค่ะ 


วิธีการตรวจสอบ : สามารถทำได้ด้วยตนเอง 

โดยใช้ชุดทดสอบสารสเตียรอยด์จาก Master Lab
ซึ่งสามารถทดสอบได้ถึง 20 ครั้ง
หากมีสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม จะให้ผลบวกสีม่วง สีอื่นๆคือไม่มีสเตียรอยด์นะคะ

 

2️⃣ ปรอท 

– ตัวนี้ อันตรายมาก ค่ะ จากการสุ่มตรวจพบว่า ครีมหน้าขาวราคาถูกในท้องตลาด มีสารปรอทปนเปื้อนถึง 20%

ปรอทมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์การเกิดเม็ดสี ทำให้สีผิวขาวขึ้น และมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย

สามารถช่วยลดการเกิดสิวได้ด้วย จึงพบบ่อยใน ครีมแก้ฝ้า ครีมหน้าขาว ครีมแก้สิว
ผลข้างเคียงหลังจากการใช้ปรอท ทำให้เป็นผื่นแดง ผิวหน้าดำคล้ำ
เกิดเป็น #ฝ้าถาวร สีม่วงอมน้ำเงิน ซึ่ง #ไม่สามารถรักษาให้หายได้อีกเลยตลอดชีวิต

 

หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เกิด #พิษสะสม  มีผลต่อ #ตับไต  เป็นโรคโลหิตจาง

หากหญิงมีครรภ์ใช้ ส่งผลให้ #ทารกในครรภ์สมองพิการ และปัญญาอ่อน

การตรวจสอบ : สามารถทดสอบครีมที่ใช้ด้วยตนเองได้จากชุดตรวจสาร SURE ของภาควิชาเคมี

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
หากมีสีชมพู แปลว่ามีปรอทปนเปื้อนอยู่ รีบหยุดใช้ก่อนเกิดสารพิษตกค้างในร่างกายนะคะ

 

3️⃣ กรดกัดผลัดเซลล์ผิว

– มีช่วงหนึ่งที่ฮิตลอกผิวกัน ลอกมาเป็นแผ่นๆ เหมือนดักแด้ ครีมลอกฝ้า ใช้แล้วหน้าแห้งลอกเป็นขุยๆ
การผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไปเหล่านี้ มักใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรดกัดผิว ทำให้ผิวบางแดง แห้ง ระคายเคืองง่าย ไวต่อแดด
แต่เมื่อถูกรังสี UV ทำให้ผิวแสบ ไหม้ กลายเป็นฝ้า 
และหากเป็นกรดวิตามินเอ หรือ อนุพันธ์ของวิตามินเอ เช่น Retinoic Acid ที่ใช้ลดการอุดตันของสิวและรอยดำจากสิว เป็นอันตรายทำให้ทารกในครรภ์พิการอีกด้วย

การทดสอบ : สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยใช้กระดาษลิตมัสทดสอบ pH หรือใช้ชุดทดสอบ
จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ค่ะ
ปกติผิวเราจะมี pH อยู่ประมาณ 5-6 เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกลาง หรือกรดอ่อนๆเท่านั้น
หากเป็นกรดมากเกินไปจนอันตรายต่อผิว ก็จะมีสีเหลืองน้ำตาลแบบในรูปข้างซองนะคะ

 

4️⃣ ไฮโดรควิโนน 

– จัดเป็นยาลดเม็ดสี ใช้ในการรักษาฝ้า จากฤทธิ์การยับยั้งเม็ดสี ซึ่งต้องใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์

และใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น คือไม่เกิน 2%

แต่ครีมแก้ฝ้า หน้าขาวมักแอบผสมลงไปในความเข้มข้นสูง ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
ทั้งอาการแสบ ตุ่มแดง ผื่นแพ้ ผิวแดงฉ่ำ หรือคล้ำขึ้นในบริเวณที่ทา…
เมื่อใช้ไปนานๆ เกิด #ฝ้าถาวร #ที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ตลอดชีวิต 

 

เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็น#มะเร็งผิวหนัง 

 

หากถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดอาการสั่น #เป็นโรคลมชัก 

การตรวจสอบ : สามารถทดสอบได้ด้วยตนเองโดยใช้ชุดทดสอบจากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

หากครีมไม่เปลี่ยนสี ถือว่าไม่มีปรอท แต่หากเป็นสีน้ำเงินอมเทาละก็มีปรอทผสมอยู่นะคะ

 

สารแต่ละชนิดเป็นอันตรายมากๆ เลยนะคะ

แม้บางตัวจะจัดเป็นยา แต่กว่าจะสั่งให้คนไข้ หมอๆก็ต้องคิดแล้วคิดอีก
ไม่จำเป็นจริงๆ หมอก็ไม่อยากให้คนไข้เสี่ยงกับผลข้างเคียงจากยาค่ะ>> เราควรมีชุดทดสอบติดบ้านเอาไว้
เพราะว่า ผู้ผลิตในแต่ละล็อต อาจใส่ความเข้มข้นของตัวยาไม่เท่ากัน
ทำสูตรออกมาค่าความเป็นกรดด่างที่แตกต่างกันได้….

บางล็อตอาจจะแอบลดต้นทุนการผลิตโดยใส่สารอันตราย

หลายๆคนอาจเคยเจอ ใช้มานานไม่มีอะไร เพิ่งจะแสดงอาการตอนเริ่มใช้กระปุกใหม่นี่แหละ

น่ากลัวกว่านั้น เคยมีเจ้าของแบรนด์ครีมมาปรึกษากับหมอว่า

“ครีมของเขาล็อตใหม่มี pH ต่างจากเดิมถึง 2 ลูกค้าใช้แล้วหน้าพังเยอะมาก…”

คำแนะนำ : เมื่อคิดว่าครีมที่ใช้อาจ มีสารอันตราย  ให้หยุดใช้

และพบแพทย์เพื่อเริ่มการรักษาอย่างถูกวิธีโดยด่วนเลยนะคะ
ผิวติดสารอาจใช้เวลาฟื้นฟูนาน ต้องใช้ความเข้าใจและอดทนนะคะ

♥♥ MD REVIVE ♥♥ ผลิตขึ้นตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหา ผิวแพ้เป็นสิว ฝ้า จากสารอันตราย
ด้วยคำถามที่ว่า จะเป็นไปได้ไหม…ถ้าจะมีครีมสักตัวให้ผลได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้สารอันตราย
MORE THAN WHITE SERUM ✨
จึงถือกำเนิดขึ้นด้วย สารสกัดจากธรรมชาตินำเข้าจากแหล่งที่ดีที่สุดของโลก ถึง 7 ชนิด
ในความเข้มข้นสูงสุดตามงานวิจัยยืนยันว่าดีต่อผิว
ส่วนผสมไม่ซับซ้อน มีเฉพาะสารที่จำเป็นต่อผิว
ให้เนื้อเซรั่ม คืนความชุ่มชื่น เติมน้ำให้ผิว ซึมซาบเร็ว
 ให้ผิวกระจ่างใส
 ลดการอักเสบและอุดตันของสิว
 ฝ้ากระ รอยดำ รอยแดงจางลง
 ผิวเนียน รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยลดลง
 ให้ผิวแพ้ง่าย กลับแข็งแรงขึ้นได้
ด้วยสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารอันตราย รวมทั้งสารระคายเคือง อุดตัน
✖️no silicone ✖️no alcohol ✖️no steroid ✖️no hydroquinone ✖️no mercury
✖️no fragrance ✖️no synthetic color ✖️no paraben
✔️pH balance
✔️ No known allergen specify by US FDA ????????
✔️ Dermatological Tested
คิดค้นสูตรโดยแพทย์ และผ่านการทดสอบแล้วว่า ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
+++ MD REVIVE อยากเห็นผิวคนไทยสวยใส อย่างปลอดภัยนะคะ +++

Leave a Reply