การรักษาสิวสเตียรอยด์สามารถหายได้ ถ้าเข้าใจ…
ถึงแม้ที่ผ่านมาหลายๆคนจะถือว่า การรักษาเป็นเรื่องยากและท้าทายมากๆอย่างหนึ่ง
เพราะสิวที่เกิดจากสารสเตียรอยด์นั้น มีความไม่ธรรมดาซ่อนอยู่
ตอนใช้ครีมที่มีสารฯ ว่า มีสิวเยอะแล้ว ตอนหยุดจะยิ่งมีสิวเยอะกว่า !!!
โดยเฉพาะช่วง 2-4 สัปดาห์หลังหยุดใช้ ซึ่งเป็นช่วงถอนสเตียรอยด์ (rebound effect) : สิวยิ่งเห่อ ฝ้ายิ่งเข้ม
หลายๆเคส จึงเกิดความสับสนว่า…
สิวเห่อจากถอนสเตียรอยด์เดิม หรือ เพราะครีมใหม่ทำให้แพ้ และเกิดสิว
ในกรณีนี้ หมอแนะนำว่า… ก่อนเริ่มการรักษา หรือเปลี่ยนครีม
ควรหยุดครีมชนิดเดิมก่อน อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ หลังจากอาการคงที่ จึงเริ่มการรักษาอย่างถูกต้อง
การรักษาสิวสเตียรอยด์ :
ในความเป็นจริง ใช้การรักษาเช่นเดียวกับสิวทั่วไป แต่ต้องใช้ความอดทน และความเข้าใจมากกว่า
เพราะเคสผิวติดสารฯ นั้น ผิวจะบาง เกิดการแพ้และระคายเคืองได้ง่าย อีกทั้งต้องใช้เวลาฟื้นฟูที่นานกว่า
เคสสิวทั่วไป ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์แต่สิวสเตียรอยด์ อาจจะต้องเป็นหลักเดือน
หลายๆคนหลุดออกจากวังวนผิวติดสารไม่ได้ เพราะพอหยุดใช้ สิวฝ้ากลับเป็นใหม่
จึงต้องกลับไปใช้ หรือหาอะไรที่มีสารฯแรงกว่ามาทา กลายเป็นวังวนซ้ำๆ
ใช้ต่อเนื่องไป ผิวยิ่งพัง หน้ายิ่งบาง สารอันตรายสะสมในร่างกาย เกิดผลข้างเคียงได้
หยุดวงจรผิวติดสารตั้งแต่วันนี้ เริ่มต้นการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง และฟื้นฟูผิวด้วยการบำรุงที่อ่อนโยน
เนื่องจากผิวติดสารฯ มักแพ้ง่าย หมอแนะนำให้
– หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง จำพวก น้ำหอม แอลกอฮอล์ กรดด่างรุนแรง หรือแม้แต่กลุ่มวิตามินเอ
– หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการอุดตัน เช่น ซิลิโคน(silicone) น้ำมัน(mineral oil)
น้ำมันจากแกะ(lanolin) เป็นต้น
รักษาสิวที่สาเหตุ พร้อมป้องกันการกลับเป็นซ้ำ สิวหายไว ตัดวงจรสิวง่ายๆด้วยตัวคุณเอง
.
.
.
3 สิ่ง… ที่คนมีปัญหา สิวเรื้อรัง ควรรู้ !!
คุณหมอบอกเคล็ดลับ ตัดวงจรสิวง่ายๆ ไม่ว่าเป็นสิวสเตียรอยด์ ผิวติดสาร สิวเรื้อรัง หน้าพังขนาดไหน
หายได้ ใน 3 ขั้นตอน >>
1. อันดับแรกเราต้องหาสาเหตุกันก่อน ว่าอะไรเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดสิว
ลองสังเกตุดูว่า การกระจายของสิวบนผิวหน้าเรานั้น กระจายตัวอย่างไร เป็นสิวเฉพาะบริเวณ เช่น
สิวไรผม กรอบหน้า : สาเหตุอาจมาจากแชมพู หรือน้ำมันจากเส้นผม
สิวรอบปาก : สาเหตุอาจเกิดจากลิปมัน หรือลิปสติกที่ใช้ หรือ อาจเกิดจากยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ก็พบได้เช่นกันค่ะ
สิวกระจายทั่วใบหน้า : อาจเกิดจากแพ้เครื่องสำอางค์ เป็นได้ตั้งแต่ สบู่ ครีม เซรั่ม แป้ง รองพื้น กันแดด ฯลฯ
เรียกได้ว่าทุกสิ่งที่สัมผัสผิวหน้า ทำให้เกิดสิวได้ทั้งสิ้น
หากมีสิวเห่อ เป็นหนองทั่วหน้า ผิวบางแดง แพ้ง่าย อาจต้องสงสัยว่า เกิดจากสารสเตียรอยด์ หรือ
ถูกสารอันตราย ทำร้ายผิว
>>> หาสาเหตุให้พบ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นสิวเพิ่ม <<<<
2. เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และปรับพฤติกรรม
เมื่อเรารู้ว่าแพ้อะไร เราต้องหลีกเลี่ยง !
หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สิวก็ยังเกิดใหม่… ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม รักษาเท่าไหร่ไม่หายสักที
หากรู้ว่าเป็น สิวจากเส้นผม : ควรเปลี่ยนไปใช้แชมพูที่อ่อนโยน, ไม่มีซิลิโคน, น้ำหอมกระตุ้นการเกิดสิว
งดพวกครีมนวด น้ำมัน การจัดแต่งทรงผมต่างๆ สระผม เป่าแห้งทุกคืนก่อนนอน พยายามอย่าให้เส้นผม
สัมผัสกับผิวหน้า
สิวรอบปาก : หยุดการทาลิปทุกชนิด หากยังมีสิวขึ้นใหม่ อาจต้องลองเปลี่ยนยาสีฟัน หรือ น้ำยาบ้วนปากดูค่ะ
หากสงสัยว่าเป็นสิวจากแพ้ครีม หรือ สงสัยว่า ผิวติดสารสเตียรอยด์ ต้องหยุดใช้ !!
หากแพ้ครีมธรรมดา ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหลังหยุด ผิวจะค่อยดีขึ้นเอง
แต่หากเกิดจากสารเสตียรอยด์ 2-4 สัปดาห์นี้ จะเป็นช่วงถอนสเตียรอยด์
ตอนใช้ว่าเป็นสิวหนักแล้ว หยุดใช้อาจเป็นหนักกว่า สิวยิ่งเห่อ ฝ้ายิ่งเข้ม
ให้อดทน รักษาตามอาการไป…
สิวหนอง -> เจาะหนองออก
ฝ้าเข้ม -> เลี่ยงแสงแดดด้วยร่ม หมวก
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า หรือ ใช้สำลีชุบน้ำเกลือ 0.9% NSS เช็ดหน้า เท่านั้น !
** ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด !!! **
หลายๆคนไม่สามารถผ่านช่วงนี้ไป
พอสิวเห่อ ฝ้าเข้ม กลับไปหาครีมแก้สิวที่มีสารอันตรายที่แรงขึ้นมาใช้
ทำให้เกิดเป็นวงจรผิวเสียซ้ำๆ เกิดเป็นสิวเรื้อรัง ผิวยิ่งพังในระยะยาว
3. รักษาสิว อย่างถูกวิธี
หยุดการรักษาแบบลองผิดลองถูก…
ใช้ตัวยามาตรฐาน
เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ปลอดภัย ปราศจากสารกระตุ้นให้เกิดสิว (non-comedogenic) เช่น ซิลิโคน
น้ำมันอุดตัน น้ำหอม ฯลฯ
หากเป็นผิวติดสารสเตียรอยด์ ผิวจะบาง และแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
(for sensitive skin / hypo-allergenic) และมีส่วนช่วยฟื้นฟู เสริมความแข็งแรงของชั้นผิว
ระยะเวลาในการหายของสิว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ว่า
สามารถหลีกเลี่ยงสาเหตุของสิวได้ดีแค่ไหน และสารอันตรายที่เคยใช้ มีความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด
หมอจึงย้ำเสมอว่า
>>> การรักษา ต้องทำ ร่วมกับการป้องกันกลับเป็นซ้ำ เสมอนะคะ <<<
การรักษาสิวปกติ โดยทั่วไป ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
ผิวจะเริ่มดีขึ้น สิวลดลง แต่หากเป็นสิวสเตียรอยด์ หรือผิวติดสาร
อาจใช้เวลานานกว่านั้นเป็นเดือน หรือหลายๆเดือนได้ค่ะ
วิธีการที่ถูกต้องอาจไม่ได้ให้ผลรวดเร็วแบบทางลัดที่ใช้สารอันตราย
ต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจเป็นอย่างมาก ในการตัดวงจรสิวเรื้อรัง / ผิวติดสาร
หมอ และ MD REVIVE ร่วมเป็นกำลังใจให้
เราอยากเห็นผิวคนไทยสวย ไร้สิว และแข็งแรงอย่างยั่งยืนค่ะ ^^