การล้างหน้า เป็นขั้นตอนแรก !!!
และเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากของการดูแลผิว หลายๆคนอาจมองข้ามไป…
แต่รู้ไหมว่า…
ถ้าล้างไม่ถูกวิธี ก็จะทำร้ายผิวตัวเองโดยไม่รู้ตัว >_<
??? เราล้างหน้าเพื่ออะไร ???
คำตอบ #ชะล้างเอาไขมัน (sebum) ส่วนเกิน และ สิ่งสกปรก ต่างๆ
รวมทั้งเครื่องสำอางและกันแดด ออกจากผิว
>>โฟมหรือสบู่ล้างหน้าทั่วไป
อาจล้างคราบเครื่องสำอางและกันแดดออก ไม่หมด
>> หาก ใครแต่งหน้า หรือ ทากันแดด ทุกวัน
ควรพิจารณาการใช้ เมคอัพรีมูฟเวอร์ หรือ คลีนเซอร์ เพื่อทำความสะอาด ก่อนการล้างหน้า
หรือ หาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่สามารถทำความสะอาดกันแดดและเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจด
เพื่อลด สิ่งสกปรกตกค้าง ที่เป็นสาเหตุการเกิดสิว
⭐️ ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ที่เหมาะกับผิว คือ มี pH balance 5.5 เท่ากับผิว
ในขณะที่สบู่ล้างหน้าทั่วไป มีค่า pH ประมาณ 8-9…ทำให้หลังล้างหน้งผิวแห้งตึง
⭐️ การล้างหน้า ไม่ควรล้างบ่อย เกิน 2 ครั้ง คือ “เช้า และ เย็น” เท่านั้น
โดยเฉพาะผิวเป็นสิว
การล้างหน้าบ่อย หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แรงเกินไป เช่น สบู่ก้อน จะทำร้ายให้ผิวแห้งตึง
เพราะในผิวของเรา ปกติจะมีสมดุลของน้ำและน้ำมันอยู่
– น้ำมีหน้าที่ให้ความชุ่มชื่น
– น้ำมันมีหน้าที่เคลือบผิว ลดการระเหยของน้ำ
เมื่อความชุ่มชื่นเสียไปจากการล้างหน้าที่บ่อยเกิน
หรือ ใช้สบู่ล้างหน้าที่แรงเกินไป
ผิวของเราจะสูญเสียน้ำ แห้ง และ เกิดการระคายเคือง
ต่อมไขมันจึงผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชย
และเมื่อน้ำมันออกมามากเกินไป ผิวระบายไม่ทัน
เกิดการอุดตัน ทำให้เป็นสิวนั่นเองค่ะ
***ในกรณี ผิวแพ้ หรือเป็น ผิวติดสารอันตราย ที่มีการอักเสบมาก
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยง น้ำหอม ซัลเฟต SLS SLE ที่อาจทำให้แพ้มากขึ้น
งดการใช้สบู่ ที่ทำให้ผิวแสบและแห้งตึง
และ พบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะกับสภาพผิวนะคะ
>> สำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัด หรือ ไปเที่ยวแล้วผิวแพ้ สิวเห่อ
ควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำดื่ม ล้างหน้าอีกครั้งในขั้นตอนสุดท้ายหลังอาบน้ำและเช็ดตัว แล้วปล่อยให้แห้ง
เพื่อลดการระคายเคืองจากสิ่งสกปรกในน้ำที่ไม่สะอาดนะคะ
♥♥♥ ด้วยความปรารถนาดีจาก MD REVIVE ♥♥♥
#เวชสำอางโดยแพทย์
#เพื่อผิวแพ้และเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ